ณ โรงเรียนพุทไธสง ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2554
นางเนตรนภิส แสไธสง ครูอาสาสมัคร กศน.อำเภอพุทไธสง

เนตรนภิส แสไธสง นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา (ศษ.ม.)มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ศูนย์อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554
ร่วมงานมหกรรม กีฬา กศน.เกมส์ จังหวัดเชียงใหม่
ร่วมงานมหกรรม กีฬา กศน.เกมส์ จังหวัดเชียงใหม่
ระหว่างวันที่ ๕- ๘ กันยายน ๒๕๕๔ ณ สนาม กีฬา ๗๐๐ ปีจังหวัดเชียงใหม่เจ้าๆๆ
ระหว่างวันที่ ๕- ๘ กันยายน ๒๕๕๔ ณ สนาม กีฬา ๗๐๐ ปีจังหวัดเชียงใหม่เจ้าๆๆ
วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ออกโครงการอำเภอยิ้มโรงเรียนวัดท่าเยี่ยม
ออกโครงการอำเภอยิ้มโรงเรียนวัดท่าเยี่ยมวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๔
กศน.อำเภอพุทไธสง ได้นำหนังสือ วารสารต่างๆออกบริการรักการอ่านและบริการผัดหมี่ส้มตำอร่อยๆ
กศน.อำเภอพุทไธสง ได้นำหนังสือ วารสารต่างๆออกบริการรักการอ่านและบริการผัดหมี่ส้มตำอร่อยๆ
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554
ภาพเช้าวันที่20มีนาคม2554
วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
อบรมคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนานักศึกษากศน.อำเภอพุทไธสง
อบรมคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนานักศึกษากศน.อำเภอพุทไธสง
ระหว่างวันที่ ๒-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ศูนย์อินเตอร์เน็ตเทศบาลตำบลพุทไธสง
ระหว่างวันที่ ๒-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ศูนย์อินเตอร์เน็ตเทศบาลตำบลพุทไธสง
วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ประชุมเชิงปฏิบัติการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนสำหรับครูผู้สอน
ภาพการเข้าประชุมเชิงปฎิบัติการการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู
โดยมีรองศาสตรจารย์ดร.พชรี ศรีสังข์ ภาควิชาสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ วิทยากร การอบรมร่วมครั้งนี้โดยความร่วมมือกับ๓ อำเภอคือ
กศน.อำเภอโนนศิลา,กศน.อำเภอพุทไธสง,กศน.อำเภอหนองบัวแดง
ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๙ มกราคม ๒๕๕๔ ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
ความหมายของการวิจัยปฏิบัติการ
การวิจัยปฏิบัติการ(Action Research) เป็นวิธีการศึกษาค้นคว้าแบบส่องสะท้อนตนเองของกล่มผู้ปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ โดยการระบุปัญหาหรือความต้องการพัฒนาในงานที่รับผิดชอบ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดเป็นการวิจัยที่ทำอย่างรวดเร็ว นำผลไปใช้ได้ทันทีและสะท้อนข้อมูลที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานต่างๆให้เพื่อนร่วมงานได้มีโอกาสอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแนวทางที่ได้ปฏิบัติและผลที่เกิดขึ้น เพื่อพัฒนาการทำงานต่อไป
การวิจัยปฏิบัติการมาจากการเชื่อมโยงคำสองคำ คือคำว่า "การปฏบัติการ "(Action) และ "การวิจัย" (Research) ซึ่งเป็นการเน้นให้เห็นความหมายว่าเป็นการใช้กระบวนการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาแลพัฒนาการปฏิบัติงานหรือเป็นการเชื่อมโยงระหว่างทฤษฏีกับการปฎิบัติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จากแนวคิดไปส่การปฏิบัติ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ผู้วิจัย คือ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงาน
สิ่งที่ถูกวิจัย คือ การปฏิบัติงานในภาระหน้าที่ต่างๆ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ การพัฒนาการทำงาน การค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เน้นผลการวิจัยที่จะนำไปเปลี่ยนปแปลงการทำงาน
วิธีการวิจัย คือ กระบวนการค้นหาข้อความร้ที่มีขั้นตอน หลัดกสำคัญคือการวิจัยและการปฏิบัติการ
ลักษณะสำคัญ ๑. เป็นการสะท้อนผลการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นของตนเอง
๒. เปิดโอกาสให้ผ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงาน/เพื่อนร่วมงานมีส่วนในการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานและผลที่ได้รับ
๓. เป็นกระบวนการที่มีการดำเนินงานเป็นวงจรต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานกล่าวคือ"ปฏิบัติงานไปวิจัยไป"
๔. ผลที่ได้รับจากการวิจัย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงาน
สรุป ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ มีลักษณะปฏิบัติงานไปวิจัยไปดังภาพประกอบ
ปฏิบัติงาน................... วิจัย(คิด ค้น พัฒนา)......................... ปฏิบัติงาน......................
ปัญหา/ความต้องการพัฒนา วิธีการแก้ไขปัญหา/วิธีการพัฒนา นำผลการวิจัยวิธีการแก้ไข ปัญหา ไปปฏิบัติให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554
ภาวะผู้นำพฤติกรรมมหาวิทยาลัยโอไอว่า
ทฤษฎีพฤติกรรมภาวะผู้นำ(Behavioral Theory )
เป็นทฤษฏีที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุด โดยพิจารณาลักษณะเฉพาะตัวตามแนวพฤติกรรมของผู้นำเน้นที่การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้นำที่พึงกระทำ การศึกษาพฤติกรรมของผู้นำนั้นมีการศึกษาวิจัยหลายกลุ่มด้วยกัน ดังนี้
v Autocratic style
v Democratic style
v Laissez-faire style
- ผู้นำแบบอัตตาธิปไตย (Autocratic Style) เป็นผู้นำแบบเผด็จการ รวบอำนาจ ตัดสินใจ แต่เพียงผู้เดียวและสั่งการให้ผู้อื่นปฏิบัติตามภาวะผู้นำแบบนี้ก็จำเป็นต้องนำมาใช้ในบางสถานการณ์ตัวอย่างเช่นเมื่อบริษัท Daewoo ประสบปัญหาทางด้านการเงิน ประธานบริษัทคือChairman Kimก็เปลี่ยนภาวะผู้นำของตนเองอย่างสิ้นเชิง จากผู้นำประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมมาเป็นผู้นำแบบเผด็จการที่รวมการตัดสินใจทุกอย่างไว้ที่ตนเอง กำหนดวิธีปฏิบัติงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชา สั่งงานและจำกัดการให้ข้อมูลประกอบ ทั้งนี้เพื่อจะได้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าจะต้องใช้วิธีการรึนแรงเช่นการให้พนักงานเกษียณก่อนกำหนดหรือให้ออกสำหรับผุ้ที่มีผลการปฏิบัติงานต่ำ แต่ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดของบริษัทนั้นเอง และการปรับเปลี่ยนภาวะผู้นำดังกล่าว ก็ส่งผลให้บริษัท Daewooสามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์ด้านการเงิน กลับมาเป็นบริษัทที่มั่นคงได้(DuBrin and Ireland,1993)
- ผู้นำแบบประชาธิปไตย(Democratic Styie) ผู้นำประเภทนี้จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับกลุ่มในการตัดสินใจ และอนุญาตให้กลุ่มเป็นผู้กำหนดวิธีปฏิบัตติงาน รวมทั้งจะแจ้งให้กลุ่มทราบถึงข้อมูลข่าวสารที่จำเป็น อาทิ เป้าหมายขององค์กรรวมทั้งใช้ข้อมูลย้อนกลับเป็นโอกาสในการฝึกฝนสมาชิกกลุ่ม(สาคร สุขศรีวงค์,2549)
- ผู้นำแบบเสรีนิยม (Laissez-faie Style) ผู้นำแบบเสรีนิยมนี้จะมอบให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตัดสินใจและแก้ปัญหาต่างๆเองโดยผู้นำไม่สนใจรับผิดชอบนอกจากนี้ยังไม่ให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาว่าทำงานดีหรือไม่ดีอย่างไรด้วย(DuBrin and Ireland,1993)
นักวิจัยศึกษาพฤติกรรมและผลงานของผู้นำทั้ง3แบบเพื่อหาว่า ผู้นำแบบใดเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จหรือมีผลการดำเนินงานดีที่สุด และผู้นำแบบใดสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกกลุ่มสูงสุด จากการวิจัยพบว่า ผู้นำอัตตาธิปไตยและผู้นำแบบประชาธิปไตยสามารถสร้างผลงานให้องค์การได้สูงในระดับเดียวกัน ผู้นำแบบเสรีนิยมสร้างผลงานได้ต่ำสุด
การเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้นำตามภาวะผู้นำประเภทต่างๆ
ภาวะผู้นำแบบอัตตาธิปไตย | ภาวะผู้นำแบบประชาธิปไตย | ภาวะผู้นำแบบเสรีนิยม |
-ผู้นำตัดสินใจเองแต่ผู้เดียว | -ผู้นำเข้าไปมีส่วนร่วมกับกลุ่มในการตัดสินใจ | -ผู้นำมอบอำนาจให้กลุ่มตัดสินใจได้โดยเสรี |
-กำหนดวิธีปฏิบัติงานเองแล้วจึงแจ้งให้สมาชิกกลุ่มปฏิบัติตาม | -อนุญาตให้กลุ่มเป็นผู้กำหนดวิธีปฏิบัติงาน | -ไม่เกี่ยวข้องในการกำหนดวิธีปฏิบัติงานแต่คอยดูแลอยู่ห่างๆ |
-จำกัดการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กลุ่มกับ | -แจ้งให้กลุ่มทราบถึงข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นอาทิเป้าหมายขององค์การ | -ไม่ค่อยติดต่อสื่อสารกับกลุ่มแต่จะเข้ามาเกี่ยวข้องเฉพาะเพื่อตอบข้อซักถาม |
-ไม่ค่อยได้ให้ข้อมูลย้อนกลับยกเว้นกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานผิดพลาด | - ใช้ข้อมูลย้อนกลับเป็นโอกาสในการฝึกฝนสมาชิกกลุ่ม | -หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลย้อนกลับ |
ส่วนสมาชิกในองค์การมีความพึงพอใจกับผู้นำแบบประชาธิปไตยสูงที่สุด ขณะที่ผุนำอีก2 แบบไม่ค่อยได้รับความพึงพอใจจากสมาชิก ผลการวิจัยยังพบว่า ผู้นำแบบอัตตาธิปไตยสามารถทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ดีภายใต้เวลาที่จำกัด ซึ่งแตกต่างจากผู้นำประเภทอื่นที่จะทำได้ดีก็ต่อเมื่อมีเวลามากอย่างเพียงพอแล้วเท่านั้น(สาคา สุขศรีวงค์,2549)
Autocratic and Democratic Leader
Kurt Lewin ได้ทำการศึกษาในปลายทศวรรษที่ 1930 พบว่ากลุ่มที่นำโดยผู้นำแบบประชาธิปไตยโดยทั่วไปทำงานได้ในจำนวนเหมือนๆกับกลุ่มที่นำโดยผู้นำแบบเผด็จการ แต่สมาชิกของกลุ่มที่นำโดยผู้นำแบบประชาธิปไตยมีความพึงพอใจในงานมากกว่า
นักวิจัยได้แก่Robert Tannenbaum และWarren H.Schmidt ได้ขยายทรรศนะที่มีต่อภาวะผู้นำแบบเผด็จการและประชาธิปไตยจาก 2 พฤติกรรมออกเป็น 7 พฤติกรรม
การใช้อำนาจหน้าที่โดยผู้จัดการ
ผู้จัดการทำการตัดสินใจและประกาศใช้ให้บุคลากรปฏิบัติ. | ผู้จัดการชักจูงให้บุคลากรเห็นชอบในสิ่งที่ตนตัดสินใจ | ผู้จัดการสอบถามความเห็นของบุคลากรที่มีต่อความคิดของตนและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเอ | ผู้จัดการกำหนดกรอบที่เป็นข้อจำกัดและสอบถามกลุ่มเพื่อทำการตัดสินใจ | ผู้จัดการอนุญาตให้กลุ่มทำหน้าที่อย่างอิสระภายใต้กรอบที่เป็นข้อจำกัด |
นางเนตรนภิส แสไธสง เลขที่ 47
นางสาวบุนยนุช ขวัญอยู่ เลขที่ 48
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ข่าวการศึกษา
- เอปสันสนันสนุนกิจกรรมนักศึกษาแพทย์ศิริราช - Invalid Date
- จุฬาฯ ยังคงให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการสนามกีฬาแห่งชาติ - Invalid Date
- "จุรินทร์" รอเคาะหลักเกณฑ์เลือก หน.พรรคประชาธิปัตย์ 23 เม.ย.นี้ - Invalid Date
- "แรมซีย์"เจ็บกล้ามเนื้อขาส่อปิดเทอม กีฬา - Invalid Date
- หัวเว่ยส่ง 3 นักศึกษาไทย ชิงไอซีทีโลก - Invalid Date